ข่าวเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานการแก้ไขปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ ซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์นี้ว่า ที่ประชุมจะติดตามการเพิ่มราคารับซื้อสัตว์น้ำโดยใช้กลไกราคา ระหว่างกลุ่มชาวประมงในฐานะผู้ขาย กับกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารทะเลในฐานะผู้ซื้อ ล่าสุดทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงที่จะเพิ่มราคารับซื้อสัตว์น้ำที่ตกต่ำลงจากกรณีมีการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำเพื่อนำมาแปรรูปเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งการนำเข้าอย่างถูกต้องและการลักลอบนำเข้าจนเต็มสต็อกของห้องเย็นในประเทศ โดยราคารับซื้อสินค้าสัตว์น้ำที่เพิ่มขึ้นจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ  

1) กลุ่มปลาผิวน้ำ (ทูน่า-ชาร์ดีน-แมคเคอเรล) จะรับซื้อปลาทูแขก-ปลาหลังเขียว ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 20 บาท และห้ามโรงงานปฏิเสธการรับซื้อกรณีสต็อกเต็ม โดยต้องหาโรงงานเครือข่ายเข้ามารับซื้อแทน 

2) กลุ่มปลาหน้าดิน (ปลาปากคม-ทรายแดง) ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตปูอัด-ลูกชิ้นปลา จะเพิ่มราคารับซื้อให้สูงขึ้นอีกกิโลกรัมละ 2 บาท 

3) กลุ่มปลาหมึก ยังไม่สามารถตกลงราคารับซื้อกันได้ เนื่องจากมีผู้ประกอบการหลายราย โดยกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมึกทั้งที่ถูกกฏหมายและลักลอบนำเข้ามาตีตลาดภายในประเทศ ทำให้ราคาปลาหมึกตกต่ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน 

ทั้งนี้ หากการประชุมดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำได้ จะต้องไปพิจารณาการใช้มาตรการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการนำเข้าสัตว์น้ำหรือซากสัตว์ภายใต้ พรบ.โรคระบาดสัตว์ 2558 ซึ่งเป็นมาตรการที่กลุ่มโรงงานแปรรูปไม่ต้องการให้นำมาบังคับใช้ เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจะสูงขึ้นจนกระทบกับความสามารถในการแข่งขัน (www.prachachat.net, 8 เม.ย. 2567)