ข่าวเศรษฐกิจ

ตามที่สมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอให้ออกประกาศห้ามอนุญาตให้นำเข้าสัตว์น้ำจากด้านชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำเป็นการชั่วคราวเพื่อยับยั้งสัตว์น้ำที่เข้ามาตีตลาดในประเทศนั้น จากการหารือกับกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) พบว่าการใช้มาตรการ Safeguard ผู้ฟ้องจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตนเองได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น แต่กลุ่มปลาและปลาหมึกกลับมีข้อมูลการนำเข้าลดลง (กลุ่มปลาลดลง 18.7% ปลาหมึกลดลง 6.3%) ขณะที่ชาวประมงเห็นต่างว่ามีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากการลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย แต่ชาวประมงผู้เสียหายไม่สามารถรวบรวมตัวเลขการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเพื่อพิสูจน์ความเสียหายจากการนำเข้าได้ อีกทั้งกระบวนการไต่สวนก็กินระยะเวลายาวนานเกินไป จึงต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะใช้อำนาจตาม พรบ.ส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ ได้หรือไม่ 

ส่วนข้อเสนอเดิมของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ที่ให้ใช้มาตรา 92 ของ พรก.การประมง 2558 เพื่อหยุดการนำเข้าหรือชะลอการนำเข้าสัตว์น้ำโดยทันทีนั้น กรมประมงมีความเห็นว่า มีอำนาจการใช้กฎหมายไม่เพียงพอ เนื่องจากเจตนารมณ์ของกฎหมายมาตรานี้เป็นการใช้เพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการ (www.prachachat.net, 8 เม.ย. 2567)