ข่าวเศรษฐกิจ

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (แผน PDP 2024) และร่างแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2567-2580 (Gas Plan 2024) ระหว่างวันที่ 12-23 มิ.ย. 2567 และคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการภายในเดือน ก.ย. 2567 ทั้งนี้ แผน PDP 2024 จะให้ความสำคัญในประเด็นต่างๆ 3 ด้าน คือ 1) ด้านความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ (Security) 2) ด้านต้นทุนค่าไฟฟ้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม (Economy) โดยจะยังคงค่าไฟฟ้าให้อยู่ในระดับแผนเดิมเฉลี่ยหน่วยละ 3.66 บาท หรือไม่เกินหน่วยละ 4 บาท เนื่องจากมีการกำหนดสัดส่วนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงขึ้น และ 3) ด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Ecology) เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพลังงานชาติ  

สำหรับสาระสำคัญของแผน PDP 2024 จะมุ่งเน้นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้นเป็น 51% ของปริมาณการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด จากแผนเดิม 36% โดยสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีมากที่สุดถึง 30% ของพลังงานทดแทนทั้งหมด หรือราว 2 หมื่นเมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก ขนาด 600 เมกะวัตต์ โดยในแผนดังกล่าวจะมีโรงไฟฟ้าใหม่และเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำมาพิจารณา ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ รับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ โซลาร์ โซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์ที่มีระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) รวมถึงพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) ซึ่งเป็นทางเลือกเพื่อรักษาความมั่นคง เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนไป ใช้พื้นที่เล็กลง มีความปลอดภัยสูง และทุกประเทศมองว่าเป็นทางเลือกสำคัญ (กรุงเทพธุรกิจ, 7 มิ.ย. 2567)