ข่าวเศรษฐกิจ

HP จ่อย้ายฐานจากจีนมาไทย

Nikkei Asia รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า HP บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่จากสหรัฐฯ ซึ่งมีฐานการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในจีน มีแผนจะย้ายฐานการผลิต PC มากกว่าครึ่งจากจีนมายังไทย (แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า HP ตั้งเป้าหมายภายในที่จะผลิตคอมพิวเตอร์ Notebook นอกจีนให้ได้ถึง 70%) โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการก่อตั้งศูนย์ออกแบบชั่วคราวขึ้นในสิงคโปร์ เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับไต้หวัน ขณะที่บริษัทซัพพลายเออร์ของ HP อย่างน้อย 5 ราย กำลังสร้างโรงงานผลิตหรือศูนย์รวมคลังสินค้าแห่งใหม่ขึ้นในประเทศ และ 2 รายกำลังเพิ่มกำลังการผลิตมาตั้งแต่ต้นปี 2567 ตามคำร้องขอของ HP ทั้งนี้ ซัพพลายเออร์วัสดุประกอบและชิ้นส่วนรายหนึ่งของ HP ระบุว่า จากเดิมที่เคยกังวลว่าจะมีคำสั่งซื้อไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับขีดความสามารถที่โรงงานในไทยผลิตได้ ทว่านับแต่ต้นปี 2567 บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอจาก HP ให้ผลิตชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นทำให้ธุรกิจในไทยค่อนข้างยุ่งมากในตอนนี้ 

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า HP กำลังจ้างงานวิศวกรและผู้จัดการหลายตำแหน่งในสิงคโปร์ เพื่อสร้างทีมสำรองของศูนย์ออกแบบในไต้หวัน โดยจะรับผิดชอบเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และประสานภายในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นมาตรการลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวันขึ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจไต้หวันเห็นว่า นอกจากสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่สนับสนุนการกระจายห่วงโซ่อุปทาน เช่น เหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นเมื่อต้นปี 2567 ที่กระทบห่วงโซ่อุปทานของหลายอุตสาหกรรมนานหลายเดือน รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เป็นอีกหนึ่งความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน (กรุงเทพธุรกิจ, 8 ส.ค. 2567) 

Related
more icon
Most Viewed
more icon
  • เผยรายชื่อโรงพยาบาลเอกชนที่สั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทต่างชาติ

    แหล่งข่าวจากวงการโรงพยาบาลเอกชนเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งต้องการสั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทผู้พัฒนาต่างชาติ (ที่นอกเหนือจากของ AstraZeneca อาทิ Moderna) เพื่อหวังจะนำวัคซีนดังกล่าวมาให้บริการแก่...

    calendar icon08.01.2021
  • ราคาไม้สับเพิ่มขึ้นแตะระดับตันละ 1,300-1,350 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

    สมาคมการค้าชีวมวลไทยเปิดเผยว่า ปัจจุบันผลผลิตพืชเกษตรหลายประเภท อาทิ อ้อย ลดลงมาก ปริมาณวัสดุเหลือใช้ที่นำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลจึงลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ความต้องการไม้สับ (Wood Chips) ที่ผลิตจากไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปต...

    calendar icon27.01.2021
  • เอกชนรุกลงทุนโรงพยาบาลใหม่

    สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งทยอยยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อขออนุญาตดำเนินโครงการ ทั้งโครงการใหม่และส่วนต่อขยาย ซึ่ง ...

    calendar icon08.01.2018
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview