ข่าวเศรษฐกิจ

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ของไทยจะเติบโต 3-4% ในปี 2567 ตามการเติบโตของเศรษฐกิจไทย อีกทั้งสัดส่วนยอดจำหน่าย EV ในไทยจะเพิ่มเป็น 12-15% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดของไทยจากมาตรการ EV 3.5 ส่วน HEV ที่ผลิตในไทยมากว่า 10 ปียังได้รับความนิยมมากกว่า BEV โดยยอดจำหน่าย HEV เติบโตสองหลักจากปี 2565 นอกจากนี้ คาดว่าไทยยังคงเป็นฐานการผลิตรถยนต์สันดาปภายใน รวมทั้งชิ้นส่วนเพื่อส่งออกและจำหน่ายในประเทศอีกหลายปีจนกว่าผู้บริโภคจะไม่ต้องการใช้รถยนต์สันดาปภายใน ซึ่งคู่ค้าของไทยหลายประเทศยังไม่พร้อมใช้ EV ไปอีกหลายปี  

ในปี 2567 กลุ่มฯ คาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีปัจจัยเสี่ยงภายนอกประเทศจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ สงครามการค้า อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ราคาพลังงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และปัญหาด้านการขนส่ง สำหรับปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ ได้แก่ หนี้ครัวเรือน อัตราดอกเบี้ยสูง ค่าแรงที่จะปรับขึ้น ภัยแล้ง การแจกเงินดิจิทัล ซึ่งหากเลื่อนออกไปอาจกระทบให้การเมืองไทยเกิดปัญหา งบประมาณที่อาจล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งส่งผลต่อการลงทุนภาครัฐ นักท่องเที่ยวจีนที่มีจำนวนน้อยกว่าคาด ตลอดจนการส่งออกที่ลดลงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลต่อกำลังซื้อรถยนต์ (ฐานเศรษฐกิจ, 30 พ.ย.-2 ธ.ค. 2566)