ข่าวเศรษฐกิจ

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเปิดเผยว่า การที่ไทยยังส่งออกข้าวได้มากในขณะนี้เนื่องจากมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่อยู่ในช่วงส่งมอบ โดยคำสั่งซื้อเดิมส่วนใหญ่จะส่งมอบหมดในเดือน ก.ค. 2567 แต่ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณว่าไทยจะส่งออกข้าวลดลง เหลือราวเดือนละ 6 แสนตัน จากที่เคยส่งออกข้าวได้ถึงเดือนละ 8-9 แสนตันในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งหากคำสั่งซื้อช่วงส่งมอบไตรมาส 4/2567 มีไม่มาก ก็อาจทำให้ไทยส่งออกข้าวได้ต่ำกว่าปี 2566 ที่ทำไว้ 8.7 ล้านตัน เหลือราว 8 ล้านตัน ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่กดดันการส่งออกของไทย คือ  

1) ราคาส่งออกข้าวไทยที่สูงกว่าประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนาม ที่ขณะนี้ข้าวขาว 5% (FOB) ของเวียดนามมีราคาไม่ถึงตันละ 580 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ข้าวไทยราคาเกินตันละ 630 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากการเก็งกำไรข้าวในประเทศและมีการปล่อยข้าวเพื่อส่งออกน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้ผู้ส่งออกที่รับคำสั่งซื้อล่วงหน้าไว้ในราคาตันละ 596-600 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องแบกรับภาระขาดทุน  

2) ประเทศผู้นำเข้าข้าวสั่งซื้อแค่พอใช้ ไม่สต็อกล่วงหน้าหลายเดือนเช่นที่ผ่านมา เพื่อรอดูว่าอินเดียจะยกเลิกการห้ามส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีหลังหรือไม่ ประกอบกับความกังวลเรื่อง El Nino หรือภัยแล้งลดลง เปลี่ยนมาเป็นการจับตาปรากฏการณ์ La Nina หรือฝนตกชุกแทน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพาะปลูกข้าว โดยหากอินเดียได้ผลผลิตข้าวดี มีสต็อกข้าวสูงถึง 50 ล้านตัน (จากปกติสต็อกเพียง 20 ล้านตัน) ก็อาจอนุญาตให้ส่งออกข้าวได้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวโลกลดลงครั้งใหญ่ (มติชน, 5 มิ.ย. 2567)