ข่าวเศรษฐกิจ

บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER หนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติรายใหญ่ของไทย เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ว่าในปี 2565 และปี 2566 จะมุ่งขยายตลาดในอินเดียเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากอุปทานยางพาราของอินโดนีเซียที่หายไปจากตลาดกว่า 10% หลังจากอินโดนีเซียประสบปัญหายางพารายืนต้นตายจำนวนมาก จนราคายางพาราปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ทำสัญญากับลูกค้าใหม่ในอินเดีย 5 ราย คิดเป็นคำสั่งซื้อกว่า 50,000 ตัน หรือราว 8% ของยอดจำหน่าย และบริษัทฯ ตั้งเป้าในปี 2566 ไว้ว่าจะมียอดจำหน่ายในอินเดีย 70,000 ตัน หรือ 15% ของกำลังผลิตทั้งหมดของบริษัทฯ ที่ปีละ 500,000 ตัน ทั้งนี้ บริษัทฯ มองแนวโน้มราคายางพาราว่ายังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาตลาดล่วงหน้าในต่างประเทศและราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้น โดยบริษัทฯ คาดว่ารายได้จากยางพาราจะเติบโตต่อเนื่องจากการเพิ่มกำลังผลิตของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในจีน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ยางพารามากที่สุดราว 50% ที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด รวมถึงการส่งเสริมการใช้พลังงานใหม่ในรถบรรทุกที่จะเพิ่มขึ้น 

สำหรับความคืบหน้าของธุรกิจแผ่นปูรองนอนปศุสัตว์ ปัจจุบันอยู่ในช่วงติดตั้งเครื่องจักรคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/2565 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เริ่มทยอยจำหน่ายแผ่นปูรองนอนโคตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 แล้ว โดยจ้างบริษัทภายนอกผลิต (OEM) ไปก่อน เพื่อทดลองตลาดในประเทศ และจะเริ่มผลิตสินค้าสำหรับส่งต่างประเทศหลังโรงงานใหม่แล้วเสร็จ โดยตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจแผ่นปูรองนอนปศุสัตว์ในปี 2565 ไว้ 106 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 700 ล้านบาทในปี 2566 ขณะเดียวกัน ยังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับแผ่นปูรองนอนชนิดใหม่เพิ่มอีก 5 ชนิด โดยจะเป็นแผ่นปูรองนอนที่ใช้กับคน หรือสัตว์ประเภทอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษา (กรุงเทพธุรกิจ, 10 ต.ค. 2565)