ข่าวเศรษฐกิจ
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อขอให้ทบทวนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (ค่า Ft) งวดที่ 2 (พ.ค.-ส.ค. 2566) ที่จะเร่งคืนหนี้ค่าไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใน 2 ปี ซึ่งมีผลต่อราคาค่าไฟฟ้าและพิจารณาแนวทางการปรับโครงสร้างพลังงาน เพื่อลดภาระภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยให้คงระยะเวลาการคืนหนี้ค่าไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. เป็น 3 ปี เช่นเดียวกับงวด 1/2566 เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระต้นทุนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ ส.อ.ท. เห็นว่าอัตราค่าไฟฟ้างวดที่ 2 ทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจควรจะอยู่ในระดับไม่เกินหน่วยละ 4.40 บาท ลดลงจากหน่วยละ 4.77 บาทในงวดแรก (ม.ค.-เม.ย. 2566) เพราะสมมุติฐานการเร่งคืนหนี้ กฟผ. ไม่ควรต้องเร่งจาก 3 ปี เป็น 2 ปี และเชื่อว่าหากในภาวะที่ราคาพลังงานเป็นขาลง ภาระหนี้ กฟผ. จะหมดเร็วกว่ากำหนดแน่นอน นอกจากนี้ ยังเห็นว่าควรลดสัดส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อช่วยลดต้นทุน เพราะภาครัฐเคยแจ้งว่าปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่มีราคาถูกกว่าจะเข้าสู่ระบบปกติมากขึ้นตั้งแต่ปี 2566 อีกทั้งการใช้ราคา LNG นำเข้ามาคำนวณค่า Ft ควรใช้ราคาตามแผนช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 2566 ไม่ควรใช้ราคาเฉลี่ยของเดือน ม.ค. 2566 ที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียูมาคำนวณ เพราะราคาต่างกันถึง 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู (www.prachachat.net, 8 เม.ย. 2566)