ข่าวเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2554 เกิดอาฟเตอร์ช็อกระดับ 6.6 ริกเตอร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น โดยศูนย์กลางอาฟเตอร์ช็อกดังกล่าวอยู่ห่างจากเมือง Fukushima 81 กิโลเมตร ลึก 10 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Fukushima Daiichi ไม่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมจากอาฟเตอร์ช็อกดังกล่าว และในวันเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเตรียมขยายพื้นที่อพยพประชาชนที่อาศัยอยู่รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Fukushima Daiichi เนื่องจากมีการตรวจพบการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีระดับสูงในบางพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 สำนักข่าว Kyodo รายงานว่าญี่ปุ่นอาจปรับเพิ่มระดับความรุนแรงของวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Fukushima Daiichi จากระดับ 5 เป็นระดับ 7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเทียบเท่าวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล เนื่องจากคณะกรรมาธิการความปลอดภัยนิวเคลียร์ (Nuclear Safety Commission) ของญี่ปุ่นประเมินว่ามีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Fukushima Daiichi สูงกว่า 10,000 Tetrabequerel ต่อชั่วโมงเป็นเวลาหลายชั่วโมง นับเป็นระดับสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดใน International Nuclear and Radiological Event Scale (INES) ซึ่งจัดทำโดย International Atomic Energy Agency (IAEA) (Reuters, กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการออนไลน์, โพสต์ทูเดย์, 11-12 เม.ย. 2554)