ข่าวเศรษฐกิจ

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะมีการนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.ชุมพร ระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม 2561 เพื่อพิจารณาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) ซึ่งในระยะแรกจะครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ถือเป็นโครงการสำคัญที่จะสร้างความเจริญให้กับเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้และช่วยให้ภาคใต้ได้ประโยชน์จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ 1) โครงการรถไฟทางคู่เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน ได้แก่ เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 167 กิโลเมตร ลงทุน 12,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดเปิดบริการปี 2564 ชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กิโลเมตร ลงทุน 23,000 ล้านบาท เตรียมเสนอ ครม. สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา 324 กิโลเมตร ลงทุน 56,000 ล้านบาท เตรียมเสนอ ครม. และหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กิโลเมตร ลงทุน 7,800 ล้านบาท เตรียมเสนอ ครม. 2) โครงการรถไฟความเร็วสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ-หัวหิน 221 กิโลเมตร ลงทุน 95,000 ล้านบาท เสนออนุมัติ PPP เดือนตุลาคม 2561 คาดเปิดให้บริการปี 2566 หัวหิน-สุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างศึกษา คาดเปิดให้บริการปี 2572 3) โครงการพัฒนาท่าเรือระนอง เฟส 2 เชื่อมมหาสมุทรอินเดีย 4) โครงการพัฒนาและปรับปรุงสนามบินนานาชาติและสนามบินภายในประเทศ ทั้งสนามบินชุมพร สนามบินระนอง และสนามบินสุราษฎร์ธานี 5) โครงการพัฒนาเครือข่ายถนนสายรองให้เชื่อมกับถนนสายหลักเพื่อสนับสนุนการขนส่งและกระจายสินค้าจากพื้นที่ตอนในสู่พื้นที่หลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยว การพัฒนาเขตอุตสาหกรรม และการเชื่อมโยงการค้าโลก โดยการพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งตะวันตก (ไทยแลนด์ริเวียร่า) เชื่อมแหล่งท่องเที่ยว 5 จังหวัดภาคใต้ 6) แผนการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมโอลิโอเคมีครบวงจร เพื่อเป็นแหล่งผลิตสารเคมีจากไขมันสัตว์และน้ำมันจากพืชที่มีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับสารเคมีอุตสาหกรรมที่มาจากปิโตรเคมี ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันให้มีรายได้เพิ่มจากการแปรรูปปาล์มน้ำมันเป็นสินค้ามูลค่าสูง เช่น เครื่องสำอาง หรือปาติเคิลบอร์ดที่ทำจากผลปาล์ม รวมทั้งการส่งเสริมพลังงานทดแทนจากปาล์มน้ำมัน (ไบโอดีเซล) ในพื้นที่ จ.กระบี่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ชุมพร ซึ่งมีผลผลิตปาล์มจำนวนมาก (กรุงเทพธุรกิจ, 20 ส.ค.2561)