ข่าวเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (กนศ.) หรือบอร์ดอีอีซี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานรองรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี จำนวน 168 โครงการ วงเงินรวม 1 ล้านล้านบาท โดยเบื้องต้นคาดว่าการลงทุนจะเป็นเงินงบประมาณ 30% งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 10% และรัฐร่วมลงทุนกับเอกชน 60% โดยการลงทุนทั้งหมดนี้คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้ 2% ของ GDP หรือปีละ 2 แสนล้านบาท ซึ่งการลงทุนแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1) ระยะเร่งด่วน ปี 2560-2561 ที่ต้องเร่งดำเนินการทันที รวม 99 โครงการ วงเงิน 2.92 แสนล้านบาท เช่น โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ระยะที่ 1 รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สถานีรถไฟอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 มอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด 2) ระยะกลาง ปี 2562-2564 รวม 62 โครงการ วงเงิน 4.14 แสนล้านบาท เช่น โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางแหลมฉบัง-มาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด โครงการก่อสร้างทางวิ่ง 2 ท่าอากาศยาน มอเตอร์เวย์แหลมฉบัง-ปราจีนบุรี และ 3) ระยะยาว ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป รวม 7 โครงการ วงเงิน 2.52 แสนล้านบาท เช่น รถไฟเชื่อมอีอีซี-ทวาย-กัมพูชา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ประกาศเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มเติมอีก 19 แห่ง จากที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ 2 แห่ง โดยพื้นที่ใหม่นี้ไม่ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ คิดเป็นพื้นที่รวม 26,200 ไร่ รองรับการลงทุนกว่า 1.1 ล้านล้านบาท สำหรับความคืบหน้าร่างกฎหมาย ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสร็จแล้วทุกมาตราเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 และคาดว่าสภานิติบัญญัติ (สนช.) จะพิจารณาแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 (โพสต์ทูเดย์, 2 ก.พ. 2561)