ข่าวเศรษฐกิจ

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการเร่งรัดนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ เพื่อเร่งรัดให้เกิดการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ใน 9 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์โทรคมนาคม ปิโตรเคมี เกษตรแปรรูป สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ดิจิทัล หุ่นยนต์ การแพทย์ครบวงจร อากาศยานและชิ้นส่วน โดยการลงทุนดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะให้สิทธิประโยชน์สูงสุดภายใต้เงื่อนไขที่ต้องมีการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ และจะต้องยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในสิ้นปี 2559 และเปิดดำเนินการภายในปี 2560 พบว่านโยบายดังกล่าวยังไม่สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากนักลงทุนยังมีความลังเลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับภาครัฐยังไม่ได้ให้การสนับสนุนภาคเอกชนอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคด้านการลงทุนที่มีอยู่ในแต่ละคลัสเตอร์ รวมทั้งเงื่อนไขของการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ทำให้ยากต่อการปฏิบัติงานของภาคเอกชน ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการฯ จะติดตามประเมินผลการดำเนินงานหลังสิ้นปี 2559 ว่าจะมีการต่อมาตรการด้านบีโอไอหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจที่จะไปลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) แทน อาทิ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มีแผนนำ 3 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เข้ามาใช้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนในอีอีซี (ฐานเศรษฐกิจ, 24-28 พ.ย. 2559)