ข่าวเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2559 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ... (อีอีซี) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการบริหารจัดการพัฒนาพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รวม 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเพราะจะเป็นการผลักดันประเทศไทยให้เข้าสู่การพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของอาเซียน โดยรัฐบาลจะพยายามเร่งรัดนำร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในต้นปี 2560 ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเห็นว่าการผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ดังกล่าวจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากจะตัองมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ เช่น สนามบิน การขนส่งทางราง ระบบการขนส่งที่เชื่อมต่อกับสนามบิน และท่าเรือ ขณะเดียวกันพื้นที่ดังกล่าวมีความเหมาะสมด้านการลงทุนอยู่แล้วเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน ทำให้มีการขนส่งสะดวกทั้งทางบก ทางราง และทางน้ำ การพัฒนาจึงสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนได้เร็ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ดำเนินการอยู่แล้วในพื้นที่ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ และการแพทย์ เป็นต้น เช่นเดียวกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่เชื่อมั่นว่าร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวจะกระตุ้นให้การลงทุนในพื้นที่ขยายตัว แต่จะสามารถจูงใจเอกชนได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นที่รัฐบาลจะออกมาด้วย เช่น สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนที่ออกโดย BOI กฎระเบียบการเคลื่อนย้ายแรงงาน และการเคลื่อนย้ายสินค้าที่ต้องมีอัตราภาษีศุลกากรที่แข่งขันได้ เป็นต้น (โพสต์ทูเดย์, 5 ต.ค. 2559)