ข่าวเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 คณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของยูโรโซน (Euro zone) พร้อมด้วยผู้แทนจากธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank : ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) มีมติอนุมัติความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่มูลค่า 130 พันล้านยูโร (170 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) แก่กรีซ ประกอบกับเจ้าหนี้ภาคเอกชนจะถูกปรับลดมูลหนี้ลง 53.5% ของมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาลกรีซ (หากนับรวมผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี เจ้าหนี้ภาคเอกชนจะถูกปรับลดมูลหนี้ลงราว 70%) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ยอดหนี้สาธารณะต่อ GDP ของกรีซลดลงจาก 160% ในปัจจุบัน เหลือ 120.5% ในปี 2563 แต่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าที่ IMF กำหนดไว้ที่ 120% นอกจากนี้ ECB ประกาศว่าจะโอนผลกำไรที่ได้จากการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลกรีซในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไปยังธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ในยูโรโซน เพื่อโอนผ่านไปยังรัฐบาลของแต่ละประเทศที่ประสบปัญหาทางการเงิน โดยปัจจุบัน ECB ถือครองพันธบัตรรัฐบาลกรีซมูลค่าราว 50 พันล้านยูโร ซึ่งซื้อมาในต้นทุนที่ 38 พันล้านยูโร ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าการ Swap พันธบัตรรัฐบาลกรีซจะเริ่มขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม 2555 และจะเสร็จสิ้นลงในวันที่ 11 มีนาคม 2555 อันจะส่งผลให้หนี้มูลค่า 14.5 พันล้านยูโรของกรีซ ซึ่งมีกำหนดครบชำระในวันที่ 20 มีนาคม 2555 ได้รับการปรับโครงสร้างใหม่ และช่วยให้กรีซสามารถรอดพ้นจากปัญหาผิดนัดชำระหนี้ในที่สุด (Bloomberg, Bangkok Post, ผู้จัดการออนไลน์, โพสต์ทูเดย์, 21-22 ก.พ. 2555)