ข่าวเศรษฐกิจ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าปัจจุบันผู้ผลิต EV ต่างเผชิญกับปัญหาราคาแร่โลหะที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่ EV ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ EV ที่เติบโตขึ้นมาก โดยราคาซื้อขายลิเทียมทั่วโลกปรับขึ้น 120% จากปีก่อนหน้า ราคาซื้อขายโคบอลต์ใน EU เพิ่มขึ้น 70% และราคาซื้อขายนิกเกิลล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 30% สอดคล้องกับที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่าความต้องการแร่โลหะเหล่านี้จะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 20 ปีต่อจากนี้ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ผลิต EV บางส่วนเลือกจะลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจเหมืองแร่โลหะ อาทิ Tesla และ CATL (แต่คาดว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปีจึงจะเริ่มกระบวนการผลิตได้) รวมถึงมีความพยายามในการส่งเสริมการรีไซเคิลแร่โลหะ (แต่คาดว่าปริมาณแร่โลหะที่ถูกรีไซเคิลจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการนำมาผลิตแบตเตอรี่) และการพัฒนาแบตเตอรี่โซเดียม-ไออนที่ไม่ต้องใช้แร่ลิเทียม โคบอลต์ และนิกเกิล เป็นส่วนประกอบ (แต่แบตเตอรี่ดังกล่าวมีข้อด้อย คือ ยังกักเก็บพลังงานไฟฟ้าได้ไม่พอกับที่ EV ต้องการใช้) ขณะที่ทางเลือกที่มีความเป็นไปได้ที่สุดขณะนี้ คือ การพัฒนาแบตเตอรี่ลิเทียมไออนฟอสเฟต (LFP) ซึ่งไม่ต้องใช้แร่โคบอลต์ และนิกเกิล เป็นส่วนประกอบ แต่มีการลดสัดส่วนการใช้แร่ลิเทียม และยังคงสามาารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่ EV ได้ดี (ประชาชาติธุรกิจ, 19-22 ส.ค. 2564)