ข่าวเศรษฐกิจ

เกิดน้อย-อายุยืน ระเบิดเวลาทุบเศรษฐกิจไทย

สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์ว่าปี 2568 จะเป็นปีแรกที่ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะมีผู้มีอายุตั้งแต่  60 ปีขึ้นไปถึง 14.5 ล้านคน คิดเป็น 20.7% ของประชากรทั้งหมด เช่นเดียวกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่ระบุว่าไทยกำลังเผชิญปรากฏการณ์เด็กเกิดใหม่ลดลง ขณะที่ประชากรมีแนวโน้มอายุยืนขึ้นเพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้น และในปี 2583 ประชากรสูงอายุจะเพิ่มขึ้นเร็ว โดยเพิ่มจาก 12.2 ล้านคนในปี 2564 เป็น 20.4 ล้านคน สวนทางกับประชากรวัยทำงาน (อายุ 15-59 ปี) ที่ลดลงจาก 43 ล้านคน เหลือ 36 ล้านคน ส่งผลให้สัดส่วนประชากรวัยแรงงานต่อประชากรลดลงจาก 3.5 คน ต่อ 1 คน เหลือเพียง 0.6 คนต่อ 1 คน และทำให้อัตราส่วนพึ่งพิงของผู้สูงอายุต่อวัยแรงงานเพิ่มจาก 28.4 คนต่อวัยแรงงาน 100 คน ในปี 2564 เป็น 56.2 คนต่อวัยแรงงาน 100 คน ในปี 2583 นอกจากนี้ ปี 2564 ยังเป็นครั้งแรกที่ประชากรเกิดใหม่ต่ำกว่า 6 แสนคน โดยมีเพียง 5.4 แสนคน น้อยกว่าประชากรที่เสียชีวิตไป 5.6 แสนคน ซึ่งจะทำให้ประชากรไทยมีแนวโน้มลดลง หากประชากรเกิดใหม่ไม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ประชากรสูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงเร่งให้โครงสร้างประชากรไทยเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุเร็วขึ้น ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจใน 4 ด้าน คือ 

1) ผลิตภาพรวมของประเทศ (Aggregate Productivity) ลดลงจากจำนวนแรงงานและสัดส่วนคนทำงานลดลง 

2) อุปสงค์ในประเทศเปลี่ยนไป โดยสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น เช่น สินค้าเพื่อสุขภาพ และบริการทางการแพทย์ ขณะที่ความต้องการสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสังคมและการทำงานจะลดลง และหากผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยากจนจะทำให้อุปสงค์ในประเทศชะลอลง 

3) ภาระการคลังของประเทศสูงขึ้น เพราะรายได้จากวัยทำงานน้อยลง และมีค่าใช้จ่ายสาธารณสุขและสวัสดิการผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น จนอาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะสูงขึ้น 

4) การออมและการลงทุนในประเทศจะลดลง เพราะประชากรส่วนใหญ่ที่เกษียณมักใช้จ่ายจากเงินออม 

(กรุงเทพธุรกิจ, 17 ก.พ. 2565)

Related
more icon
Most Viewed
more icon
  • เผยรายชื่อโรงพยาบาลเอกชนที่สั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทต่างชาติ

    แหล่งข่าวจากวงการโรงพยาบาลเอกชนเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งต้องการสั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทผู้พัฒนาต่างชาติ (ที่นอกเหนือจากของ AstraZeneca อาทิ Moderna) เพื่อหวังจะนำวัคซีนดังกล่าวมาให้บริการแก่...

    calendar icon08.01.2021
  • ราคาไม้สับเพิ่มขึ้นแตะระดับตันละ 1,300-1,350 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

    สมาคมการค้าชีวมวลไทยเปิดเผยว่า ปัจจุบันผลผลิตพืชเกษตรหลายประเภท อาทิ อ้อย ลดลงมาก ปริมาณวัสดุเหลือใช้ที่นำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลจึงลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ความต้องการไม้สับ (Wood Chips) ที่ผลิตจากไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปต...

    calendar icon27.01.2021
  • เอกชนรุกลงทุนโรงพยาบาลใหม่

    สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งทยอยยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อขออนุญาตดำเนินโครงการ ทั้งโครงการใหม่และส่วนต่อขยาย ซึ่ง ...

    calendar icon08.01.2018
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview