ข่าวเศรษฐกิจ

Reuters รายงานว่า บริษัท Startup ด้านการผลิตแบตเตอรี่ EV หลายแห่งในยุโรป เผชิญปัญหาเงินลงทุนก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ EV ระดับ Gigafactory และระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจรไม่เพียงพอ ซึ่งเอเชียมีโรงงานข้างต้นหลายแห่ง ทำให้เอเชียเป็นแหล่งผลิตและส่งออกแบตเตอรี่ EV หลักของโลก จากปัญหาดังกล่าวทำให้ยุโรปต้องลดขนาดโรงงานลง เพื่อดึงดูดนักลงทุนในระยะถัดไป จึงเป็นเหตุให้การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่ในยุโรปล่าช้าเมื่อเทียบกับเอเชีย ทั้งนี้ เมื่อปี 2560 EU ได้ประกาศแผนแบตเตอรี่พันธมิตรยุโรป (European Battery Alliance) เพื่อลดพึ่งพาการนำเข้าแบตเตอรี่ EV จากเอเชีย และหันมาผลิตเองในยุโรปแทน โดยตั้งเป้าให้โรงงานในยุโรปผลิตแบตเตอรี่ให้ได้ 90% ของความต้องการในยุโรปภายในปี 2573 แต่ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่หลายบริษัทในยุโรป เช่น BMW, Mercedez-Benz และ Stellantis รวมถึง Volkswagen ต่างมีสัญญาซื้อขายแบตเตอรี่ EV กับโรงงานที่มีบริษัทแม่ในเอเชีย ด้านบริษัทในเอเชีย ก็แสวงหาการลงทุนในยุโรป เช่น Envision AESC ของจีน ที่อยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มจำนวนโรงงานในยุโรป ทำให้ EU คาดว่าหากสถานการณ์ดังกล่าวดำเนินต่อไป บริษัทจากเอเชีย โดยเฉพาะจีน มีแนวโน้มช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่ง Benchmark Mineral Intelligence (BMI) คาดว่า กำลังการผลิตแบตเตอรี่ EV ในยุโรปปี 2574 จะมาจากบริษัทของเอเชีย 44% อาทิ CALT จากจีน และ LG Energy Solution จากเกาหลีใต้ (ข่าวหุ้น, 4-6 พ.ย. 2565)