ข่าวเศรษฐกิจ

กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยในปัจจุบันเติบโตต่อเนื่อง ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ แม้ผู้ประกอบการกว่า 95% จะเป็น SMEs และส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักรขนาดเล็กและใช้เทคโนโลยีไม่สูงนัก แต่การส่งออกขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% ทุกปี และคาดว่าจะเป็นอุตสาหกรรมดาวเด่นในอนาคต เนื่องจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นทำให้การผลิตอาหารกลายเป็นวาระเร่งด่วนที่ทั่วโลกต้องเร่งแก้ไขและวางแผนรับมือ ซึ่งเครื่องจักรกลการเกษตรจะเป็นหนึ่งในตัวแปรที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการผลิต 

ทั้งนี้ ในปี 2564 มีการประเมินรายได้ของอุตสาหกรรมเฉลี่ยรวมราวปีละ 1.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศราว 1 แสนล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 43,869 ล้านบาท สำหรับช่วง 1-2 ปีข้างหน้าคาดว่าตลาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 7-8% ซึ่งกลุ่มฯ ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการส่งออกไปยังตลาดเกิดใหม่อย่างประเทศในทวีปแอฟริกา เช่น ไนจีเรีย กานา แคเมอรูน โกตดิวัวร์ เซเนกัล และอียิปต์ ซึ่งถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ รวมถึงในภูมิภาคเอเชีย คือ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ศรีลังกา และภูฏาน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันอยู่บ้าง เช่น สงครามเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ-จีน สงครามรัสเซีย-ยูเครน ต้นทุนวัตถุดิบ แรงงาน พลังงาน และการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ศักยภาพในการแข่งขันลดลง นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนที่มีทิศทางชะลอตัวทำให้น่าเป็นห่วงว่า ในปี 2566 สินค้าจากจีนอาจทะลักออกสู่ตลาด (กรุงเทพธุรกิจ, 14 พ.ย. 2565)