ข่าวเศรษฐกิจ

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่าแนวโน้มการลงทุนปี 2566 มีสัญญาณที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากนักลงทุนจีนและญี่ปุ่นที่ยังคงมีแผนใช้ไทยเป็นฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 การขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มีทั้งสิ้น 2,119 โครงการ เพิ่มขึ้น 41% จากปี 2564 ด้วยมูลค่าลงทุนรวม 664,635 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% ขณะที่การขอรับส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีมูลค่า 433,971 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% โดยจีนมีมูลค่าลงทุนเป็นอันดับ 1 ถึง 77,381 ล้านบาท จาก 158 โครงการ ญี่ปุ่นเป็นอันดับ 2 จำนวน 293 โครงการ มูลค่าลงทุน 50,767 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วง 10 ที่ผ่านมาญี่ปุ่นได้ลงทุนขนาดใหญ่ไปแล้ว ต่อจากนี้จึงเป็นการเน้นขยายการลงทุน ทำให้เม็ดเงินลงทุนจากญี่ปุ่นไม่สูงเท่ากับจีนที่ซื้อที่ดินและตั้งโรงงานใหม่ จึงมีเม็ดเงินลงทุนสูง ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยังยืนยันจะขยายการลงทุนต่อเนื่องและจะยังคงใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ทั้งยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ และแปรรูปอาหาร นอกจากนี้ BOI ระบุว่าได้วางยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ใน 7 หมุดหมายโดยการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเดิมและสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ ดิจิทัล การแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ อากาศยาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการศึกษา และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยมีอุตสาหกรรมมุ่งเป้าระยะ 3 ปีที่ชัดเจนมากขึ้น ได้แก่ BCG, EV อิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (mgronline.com, 14 ก.พ. 2566)