ข่าวเศรษฐกิจ

กระทรวงพลังงานคาดการณ์ว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือ Peak (พีก) ในช่วงฤดูร้อนปี 2566 จะมีค่าสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา หรือสูงกว่า 30,936 เมกะวัตต์ (MW) เนื่องจากอุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูง การเปิดประเทศทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น แต่ปริมาณไฟฟ้าจะมีเพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณสำรองไฟฟ้าของไทยที่สูงราว 30% ทั้งนี้ จากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้สำรองไฟฟ้าของไทยกลับสู่ภาวะปกติที่ 15% ได้ในปี 2568 แต่ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2566-2580 หรือ PDP 2023 จะยกเลิกการพิจารณาปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศ (Reserve Margin) และเปลี่ยนไปใช้เกณฑ์ดัชนีความเชื่อถือได้ (Loss of Load Expectation : LOLE) แทน โดยเกณฑ์ LOLE ดังกล่าวจะยอมรับให้ไฟฟ้าดับได้เพียงปีละ 0.7 วัน ซึ่งจะเหมาะสมกับการที่ไทยจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเข้าระบบให้มากขึ้น 

สำหรับการจัดทำ PDP 2023 คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2566 โดยจะบรรจุปริมาณการผลิตไฟฟ้าในระบบ 3 การไฟฟ้ามากกว่า PDP 2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ที่มีอยู่ 77,211 MW เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงปลายแผนจะเพิ่มขึ้นจากการใช้ EV มากขึ้น การใช้ไฟฟ้าในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% เมื่อสิ้นสุดปี 2580 รวมทั้งจะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กบรรจุอยู่ในแผนด้วย (https://mgronline.com, 20 มี.ค. 2566)