ข่าวเศรษฐกิจ

บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการหลังการขาย ประเมินว่าความต้องการ EV ทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจนทำให้ยอดจำหน่าย EV มีสัดส่วนเกิน 50% ของรถยนต์ทั่วโลกภายในปี 2578 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 61% หรือราว 73 ล้านคันในปี 2583 จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ AH ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูปและชิ้นส่วนพลาสติกที่ AH ผลิตในปัจจุบันยังคงใช้อยู่ใน EV โดยชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะหายไปจากการเปลี่ยนผ่านสู่ EV มีสัดส่วนเพียง 5% ของรายได้ของ AH ขณะเดียวกัน AH พร้อมปรับตัวเพิ่มความหลากหลายของชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อรองรับความต้องการของตลาด

นอกจากนี้ AH คาดว่าในปี 2566 รายได้จากการผลิตชิ้นส่วน EV จะเติบโต 100% สอดคล้องกับยอดจำหน่าย EV ในตลาดโลกที่คาดว่าจะเติบโตราว 34% อีกทั้งคาดว่าผลดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 จะดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยยังคงตั้งเป้าการเติบโตของยอดจำหน่าย 10-15% และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น 10-12% เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเติบโตได้ทั้งในประเทศรวมถึงตลาด EU และจีน สำหรับรายได้ปี 2566 คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10-15% มากกว่าที่คาดไว้เพียง 7% เนื่องจาก 1) การรับรู้ยอดคำสั่งซื้อใหม่เต็มปีจากลูกค้าที่บริษัทฯ หามาได้ตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งจะทำให้รายได้ปี 2566 เพิ่มขึ้นอีก 2,000 ล้านบาท 2) โรงงานในโปรตุเกสมีผลการดำเนินงานดีขึ้นและเริ่มพลิกเป็นกำไรแล้วตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 และ 3) ยอดผลิตรถยนต์โดยรวมในไทยเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ AH วางงบลงทุนปี 2566 ราว 1 พันล้านบาท โดยในจำนวนนี้ ราว 400-500 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทฯ และแสวงหาโอกาสเพิ่มเติมในการเติบโตในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ  ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก นอกจากนี้ AH อยู่ระหว่างการเจรจากับ BYD ผู้ผลิต EV ของจีน เพื่อให้ BYD สั่งซื้อชิ้นส่วน EV จาก AH ในอนาคต ซึ่งหาก BYD ตั้งโรงงาน EV ในไทย คาดว่าจะส่งผลดีต่อ AH (thunhoon.com, 1 มิ.ย. 2566)