บทความพิเศษจากกรรมการผู้จัดการ

เรือเล็กต้องออกจากฝั่ง ... SMEs ไทยต้องโกอินเตอร์

          อย่างที่ทราบกันดีว่าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs เป็นกระดูกสันหลังของระบบเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงไทย โดย SMEs ไทยเป็นฐานรากสำคัญและมีจำนวนมากถึง 3.1 ล้านราย คิดเป็น 99.5% ของผู้ประกอบการทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจของ SMEs ในปัจจุบันยังไม่มากเท่าที่ควรและมีความย้อนแย้งเชิงโครงสร้าง โดยข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่าปัจจุบัน SMEs มีบทบาทราว 35% ของ GDP รวม ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่มีไม่ถึง 1.5 หมื่นรายกลับมีบทบาทต่อ GDP สูงเกือบ 60% ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหันไปมองประเทศเพื่อนบ้าน จะเห็นว่า SMEs มีบทบาทค่อนข้างสูง เช่น เวียดนาม 40% ของ GDP อินโดนีเซีย 58% รวมถึงกลุ่มประเทศ OECD (Organization for Economic Co-operation and Development) ที่เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว SMEs มีบทบาทเฉลี่ยราว 50-60% ยิ่งตอกย้ำว่าต้องเร่งพัฒนาและยกระดับ SMEs ไทยให้มีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้น

          ก่อนอื่นคงต้องหาเหตุผลว่าทำไม SMEs ไทย จึงมีบทบาทต่อเศรษฐกิจไม่มากเท่าที่ควร โดยหนึ่งใน Pain Point ที่เห็นชัดเจน คือ SMEs ไทย ส่วนใหญ่ยังค้าขายในประเทศเป็นหลัก สะท้อนจาก SMEs ที่เป็นผู้ส่งออกมีเพียง 2.4 หมื่นราย หรือไม่ถึง 1% ของ SMEs ทั้งระบบ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ผลสำรวจของญี่ปุ่นพบว่ามี SMEs ที่เป็นผู้ส่งออกถึง 20% แคนาดา 12% เวียดนาม 8% เป็นต้น การที่ SMEs ไทยขายแต่ในประเทศ ทำให้เผชิญการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจากคนขายมีมากขึ้นแต่คนซื้อเท่าเดิม เมื่อประกอบกับข้อจำกัดต่างๆ ภายในประเทศ ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึง การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่ทำให้การจับจ่ายใช้สอยไม่คึกคักเหมือนในอดีต ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ SMEs ไทยมีทางเลือก ไม่มากและเติบโตได้ยาก ดังนั้น ทางออกของปัญหานี้ คือ SMEs ไทยต้องโกอินเตอร์ ขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ ลดการพึ่งพาตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียว กระจายฐานลูกค้าให้กว้างไกลไปทั่วโลก นอกจากนี้ มี SMEs ไทยบางส่วนที่เป็นผู้ส่งออกทางอ้อมอยู่แล้ว ทั้งที่เป็น Supplier และขายผ่าน Trader ซึ่งกลุ่มนี้ควรก้าวไปเป็นผู้ส่งออกเองโดยตรง เพื่อเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายจากคนกลาง ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวจะผลักดันให้ SMEs ไทยสามารถโตต่อได้ สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในหลายประเทศ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรมแคนาดาระบุว่าบริษัทส่งออกจะมีรายได้สูงกว่าบริษัทที่ไม่ได้ส่งออกถึง 120% เช่นเดียวกับ UK Export Finance (UKEF) ของสหราชอาณาจักร ชี้ว่าบริษัทส่งออกจะโตเร็วกว่าบริษัทที่ขายในประเทศเท่าตัว หลายประเทศจึงมีนโยบายผลักดันให้ผู้ประกอบการในประเทศก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออก ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ SMEs ไทยจะก้าวออกจาก Comfort Zone ในประเทศไปสู่ตลาดผู้ซื้อใหม่ๆ ทั่วโลก ไม่เพียงแต่ตลาดหลักที่มีกำลังซื้อสูง แต่ยังรวมถึงตลาดใหม่ (New Frontiers) ที่เต็มไปด้วยความต้องการสินค้าและโอกาสทางธุรกิจอีกมาก

การเริ่มต้นขยายตลาดสู่ต่างประเทศไม่ยากเกินความสามารถของ SMEs ไทย โดยผมมีคำแนะนำเบื้องต้นเพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจแข็งแรงด้วยวัคซีน 4 เข็ม ดังนี้

- วัคซีนสร้างภูมิเสริมความรู้ด้านการส่งออก ทั้งขั้นตอนการส่งออก ระบบภาษีต่างๆ ตลอดจนศึกษาข้อมูลตลาดและคู่ค้า เพื่อหาประเทศเป้าหมายและรูปแบบการทำธุรกิจที่เหมาะสม

- วัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันความเสี่ยงตลอดวงจรธุรกิจ ตั้งแต่กระจายแหล่ง Sourcing วัตถุดิบ กระจายตลาดเป้าหมาย กระจายช่องทางขาย โดยเฉพาะช่องทาง E-Commerce ที่กำลังมาแรงและสอดรับกับกระแส New Normal ตลอดจนการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและคู่ค้าผิดนัดชำระเงินค่าสินค้า

- วัคซีนสร้างภูมิเสริมเงินทุน เติมสภาพคล่องให้เพียงพอ รองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น ยิ่งยอดขายโตขึ้น เงินทุนหมุนเวียนก็ต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

- วัคซีนสร้างภูมิยกระดับศักยภาพของธุรกิจ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับกระบวนการดำเนินธุรกิจ (Transformation) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและความแตกต่างให้สินค้าโดดเด่น อีกทั้งช่วยเพิ่ม Productivity ของธุรกิจ เช่น การนำระบบ Automation หรือแขนกล มาช่วยในภาคการผลิต เป็นต้น

EXIM Bank ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ พร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือ SMEs ไทยในการฉีดวัคซีนทั้ง 4 เข็ม เพื่อให้กิจการมีสุขภาพแข็งแรง สามารถฟันฝ่าความท้าทายต่างๆ บนเวทีโลก ผมอยากให้ SMEs ไทย Reset Mindset กล้าเปลี่ยนตัวเองใหม่ กล้าทำสิ่งใหม่ กล้าไปในที่ใหม่ และผมขอยืนยันว่าเรือเล็กต้องออกจากฝั่ง…มาครับ ไปด้วยกัน

 

Disclaimer : คอลัมน์นี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความคิดเห็นของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

เอกสาร
ที่เกี่ยวข้อง
Related
more icon
Most Viewed
more icon
  • ตลาดแอฟริกา : แหล่งลงทุนที่ทำกำไรดีอย่างคาดไม่ถึง

    ท่านผู้อ่านครับ ในปีที่ผ่านมาผมได้เล่าถึงโอกาสการค้าการลงทุนในทวีปแอฟริกาไปแล้วหลายครั้ง ว่าเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพ ทั้งในแง่ทรัพยากรธรรมชาติ ขนาดตลาด สัดส่วนประชากรในวัยแรงงาน การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาวะเศรษฐกิจ และ...

    calendar icon22.01.2019
  • การขายสินค้าออนไลน์ใน CLMV ให้ประสบความสำเร็จ

    ปัจจุบันแม้ตลาดออนไลน์ในประเทศเพื่อนบ้าน อันได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม หรือที่เรียกว่า CLMV จะยังมีขนาดเล็กกว่าไทย ด้วยจำนวนผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มีสัดส่วนเพียง 53% น้อยกว่าไทยที่มีสัดส่วนมากถึง 82% แต...

    calendar icon18.09.2018
  • ส่องโอกาสอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนในตลาดแอฟริกา

    ปัจจุบันนี้คงต้องยอมรับครับว่าทวีปแอฟริกากำลังเนื้อหอม ที่ผมกล่าวเช่นนี้เพราะมีสัญญาณที่สื่อให้เห็นชัดเจนว่าภาครัฐของหลายประเทศกำลังพยายามหาทางนำผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดแอฟริกาเพื่อยึดหัวหาด เห็นได้จากจำนวนสถานทูตตั้งใหม่...

    calendar icon26.03.2019
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview