บทความพิเศษจากกรรมการผู้จัดการ

ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดโลกที่เผชิญกับวิกฤตเข้ามาเป็นระลอก ตั้งแต่ COVID-19 ต่อเนื่องด้วยวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน และวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังก่อตัวขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกจากปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบันที่สูงทำลายสถิติในรอบหลายสิบปี แต่กลับมีประเทศหนึ่งที่ยังเติบโตได้อย่างมั่นคงและก้าวเข้ามามีบทบาทเทียบเคียงกับประเทศมหาอำนาจในหลากหลายมิติได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งประเทศที่ผมกล่าวถึงนี้ก็คืออินเดียที่นับเป็นดาวรุ่งสามารถเร่งแซงหน้าประเทศอื่นๆ ในหลายมิติ ดังนี้

• ใหญ่แซงหน้า : อินเดียก้าวขึ้นเป็นตลาดผู้บริโภคและตลาดแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกแซงหน้าจีน โดยWorld Population Prospects 2022 ขององค์การสหประชาชาติ คาดว่าในปี 2566 อินเดียจะมีจำนวนประชากรแซงหน้าจีนได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายศตวรรษ และที่สำคัญ 2 ใน 3 ของประชากรอินเดีย หรือราว 900 ล้านคนยังอยู่ในวัยแรงงาน ทำให้อินเดียเป็นตลาดที่หลายประเทศให้ความสนใจทั้งในแง่การเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวที่พร้อมออกมาจับจ่ายใช้สอย และในแง่ฐานการผลิตที่พรั่งพร้อมไปด้วยแรงงานหนุ่มสาว ซึ่งหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าอินเดียจะกลายเป็นอีกหนึ่งโรงงานของโลกที่มีความสำคัญในอนาคต
• โตแซงหน้า : เศรษฐกิจอินเดียเติบโตแรงแซงขึ้นมาติด Top 5 ของโลก แม้อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รุนแรงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ใช้เวลาไม่นานอินเดียก็สามารถพลิกฟื้นจนเศรษฐกิจกลับมาเติบโตสูงเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียด้วยอัตราขยายตัวเฉลี่ยสูงถึง 7.8% ต่อปีในช่วงปี 2564-2565 และขยับขึ้นมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกแทนที่สหราชอาณาจักร (United Kingdom : UK) ในปี 2565 ทั้งนี้ จากประมาณการของ IMF พบว่าเศรษฐกิจของอินเดียจะยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และมีโอกาสจะแซงหน้าเยอรมนีและญี่ปุ่นขึ้นแท่นเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และจีนได้ในปี 2570
• เก่งแซงหน้า : อินเดียมี Startup ระดับยูนิคอร์น (มูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) มากกว่า 100 ราย สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐฯ และจีน โดยพบว่าในช่วงปี 2557–2565 อินเดียมีจำนวน Startup เพิ่มขึ้นมากจาก 400 ราย เป็น 70,000 ราย ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ การเงิน การเกษตร โลจิสติกส์ และสุขภาพ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาครัฐของอินเดียให้ความสำคัญกับการสนับสนุน Startup ทั้งในด้านความรู้ เงินทุน ตลอดจนการผ่อนปรนระเบียบและกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ Startup กระทั่งมีการกำหนดให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็นวัน Startup แห่งชาติ นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียยังให้ความสำคัญด้านการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะสาขาวิศวกรรมและเทคโนโลยีอย่างจริงจังมาโดยตลอด อาทิ จัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งอินเดีย (Indian Institutes of Technology : IIT) ที่เน้นผลิตนักวิทยาศาสตร์และวิศวกร กระจายอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการปลูกฝังทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับนักศึกษาที่จะเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศในอนาคต

ขณะนี้นับว่าเป็นจังหวะที่ดีของผู้ส่งออกในการหาโอกาสขยายตลาดส่งออกไปอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ โตแรง และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากทักษะด้านเทคโนโลยีในหลายอุตสาหกรรม เพื่อกระจายความเสี่ยงจากตลาดหลักที่เศรษฐกิจชะลอลง โดยผมมองว่าเป็นโอกาสของทั้งการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งไทยมีสินค้าหลายรายการที่มีศักยภาพในการส่งออกไปอินเดีย เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ อัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงอาหารมังสวิรัติ และการส่งออกสินค้าขั้นกลาง เช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อนำไปใช้ในภาคการผลิตของประเทศ จากการที่อินเดียจะก้าวเป็นโรงงานผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจขยายตลาดส่งออกไปอินเดีย EXIM BANK ก็พร้อมเป็นที่พึ่งในการคว้าชัยในตลาดนี้นะครับ