ข่าวเศรษฐกิจ

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยรายละเอียดร่างมาตรการ EV3.5 ซึ่งได้รับการอนุมัติจากบอร์ด EV แล้ว และจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จสิ้น ดังนี้ 1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลราคาไม่เกิน 2,000,000 บาท จะได้เงินสนับสนุนคันละ 50,000 บาท สำหรับความจุแบตเตอรี่ตั้งแต่ 10 kWh ขึ้นไปแต่ไม่ถึง 50 kWh สำหรับความจุแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh ขึ้นไปจะได้เงินสนับสนุนคันละ 100,000 บาท พร้อมลดอัตราภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% รวมถึงลดอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศและนำเข้าทั้งคัน (CBU) สูงสุด 40% 2. รถกระบะราคาไม่เกิน 2,000,000 บาท จะได้เงินสนับสนุนคันละ 100,000 บาท สำหรับความจุแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh ขึ้นไป พร้อมลดอัตราภาษีสรรพสามิตจาก 10% เหลือ 0% 3. รถจักรยานยนต์ ไม่มีมาตรการสนับสนุน 4. ค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมต้องผลิตรถยนต์ในประเทศชดเชยจำนวนรถยนต์ที่นำเข้าทั้งคัน 2 เท่า ภายในปี 2567 หรือ 3 เท่า ภายในปี 2568

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรการ EV3.0 พบว่ามาตรฐาน EV3.5 ได้ปรับลดเงินสนับสนุน EV ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถกระบะจาก 70,000–150,000 บาท เหลือ 50,000–100,000 บาท และยกเลิกเงินสนับสนุนรถจักรยานยนต์ EV นอกจากนี้ อัตราส่วนของรถยนต์ที่ต้องผลิตภายในประเทศเพื่อชดเชยกับจำนวนรถยนต์ที่นำเข้าทั้งคันยังเพิ่มขึ้นจาก 1–1.5 เท่า เป็น 2–3 เท่า (headlightmag.com, 24 ส.ค. 2566)