บทความพิเศษจากกรรมการผู้จัดการ

ถึงเวลา “ยกเครื่อง” ส่งออก ....... “คิกสตาร์ท” ลงทุน

          สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ผมรู้สึกยินดีมากที่ได้กลับมาร่วมงานในบ้านหลังเดิมที่ EXIM Bank และมีโอกาสแชร์ประสบการณ์และมุมมองด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนผ่านคอลัมน์ “ดร.รักษ์ เล่าเรื่อง” หวังว่าจะเป็นประโยชน์และจุดประกายโอกาสใหม่ๆ ในการทำธุรกิจแก่ทุกท่าน สำหรับวันนี้ผมขอแชร์มุมมองการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยเครื่องยนต์ใหม่ จะเห็นได้ว่าในปี 2563 เศรษฐกิจไทยเผชิญภาวะหดตัวเฉกเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลกจากวิกฤต COVID-19 แต่หากมองย้อนหลังไปไกลกว่านั้นพบว่าเศรษฐกิจไทยประสบภาวะชะลอตัวมาหลายปีแล้ว เห็นได้จาก GDP Growth เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ขยายตัวเพียง 2% ต่ำกว่าโลกที่ 3% รวมถึงต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเวียดนามที่ 6% นอกจากนี้ ภาคส่งออกที่เคยเป็นพระเอกสำคัญของเศรษฐกิจไทย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาขยายตัวเพียง 2% ขณะที่ทั่วโลกโตเฉลี่ย 3% ไม่ต้องพูดถึงเวียดนามที่ก้าวกระโดดถึง 15% จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ผมตั้งคำถามว่า เครื่องยนต์ตัวเดิมยังสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไปได้อีกหรือไม่ เราจำเป็นต้องหาเครื่องยนต์ใหม่มาเสริมทัพแล้วหรือยัง ผมพบคำตอบว่าการส่งออกยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญของประเทศ แต่เราต้องยกระดับและติดปีกให้สินค้าไทย ขณะเดียวกันต้องเสริมแรงใหม่ด้วยเครื่องยนต์การลงทุนที่ประเทศไทยหยุดเดินไปเป็นเวลานาน โดยผมขอสรุปแนวคิดดังนี้

การส่งออก : เปลี่ยน ปรับ ขยับ

  • เปลี่ยนสู่สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและนวัตกรรม เป็นที่พิสูจน์แล้วว่านวัตกรรมเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความแตกต่างทางธุรกิจและเพิ่มความทนทานต่อความท้าทายต่างๆ ในปี 2563 World Intellectual Property Organization จัดอันดับด้านนวัตกรรมให้ไทยอยู่ที่ 44 ของโลก เทียบกับเวียดนามที่ 42 และมาเลเซียที่ 33 ถึงเวลาแล้วที่สินค้าส่งออกของไทยต้องยกระดับเพื่อให้แข่งขันได้ในเวทีโลกที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงต้องปรับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับเทรนด์ใหม่ๆ ของโลก
  • ปรับสู่ตลาดออนไลน์รับ New Normal หลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีที่แล้วการค้าออนไลน์โลกโตถึง 28% จากอานิสงส์ COVID-19 ที่ทำให้ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการช้อปปิ้งมาสู่ออนไลน์มากขึ้นและจะเปลี่ยน
    โฉมหน้าการค้าโลกในระยะถัดไป ล่าสุด eMarketer บริษัทวิจัยด้านการตลาด ประเมินว่าในปี 2564 จีนจะเป็นชาติแรกของโลกที่การค้าออนไลน์มีสัดส่วนแซงการค้าออฟไลน์ ผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องเร่งเข้าสู่ Online Platform โดยเร็ว เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสใหม่ๆ ทางการค้า
  • ขยับสู่เวทีการค้าโลก ต้องยอมรับว่าไทยเป็นตลาดไม่ใหญ่ ประชากรเพียง 70 ล้านคน เทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย 270 ล้านคน เวียดนามเกือบ 100 ล้านคน และเราเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้กำลังซื้อไม่คึกคักเหมือนในอดีต ตลาดต่างประเทศจึงเป็นทางออกสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยเติบโต (ปัจจุบันผู้ประกอบการที่ส่งออกแล้วมีเพียง 1% ของผู้ประกอบการทั้งระบบ 3 ล้านราย) ขณะที่ผู้ประกอบการที่ส่งออกอยู่แล้ว นอกเหนือจากตลาดหลักควรมองหาโอกาสขยายไปยังตลาดใหม่ๆ หรือที่เรียกว่า New Frontiers ซึ่งเป็นตลาดที่ประชากรอยู่ในวัยแรงงานและกำลังซื้อโตต่อเนื่อง

การลงทุน : สร้างอุตสาหกรรมใหม่ สยายปีกสู่ต่างประเทศ     

  • การลงทุนในประเทศ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การลงทุนภาคเอกชนของไทยไม่ขยับและมีบทบาทต่อเศรษฐกิจลดลง จาก 19% ของ GDP ในปี 2553 ลดลงเป็น 17% ในปี 2563 ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลง และไม่สามารถเชื่อมโยงกับ Supply Chain เส้นใหม่ของโลกได้ เราจึงต้องเร่งกระตุ้นการลงทุนเพื่อเป็นฐานในการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์โลกธุรกิจในอนาคต เช่น BCG Economy (Bio-Circular-Green), Robotics & Automation, HealthTech เป็นต้น
  • การลงทุนไทยในต่างประเทศ ธุรกิจไทยที่มีศักยภาพควรเปิดประตูไปปักหมุดการลงทุนในต่างประเทศ (Thai Direct Investment) ไม่เพียงเพิ่มโอกาสขยายกิจการให้แข็งแกร่งขึ้น แต่ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการส่งออกของไทยในรูปแบบ Investment-induced Trade โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าทุนและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ไปในประเทศที่ธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนแต่ขาดอุตสาหกรรมสนับสนุน ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง Supply Chain กับฐานการผลิตแห่งใหม่ในต่างประเทศ

          สุดท้ายนี้ ภายใต้บทบาทกรรมการผู้จัดการ EXIM Bank ผมจะผลักดันให้ EXIM Bank ในฐานะ Thailand Development Bank หรือธนาคารเพื่อการพัฒนา เข้าไปมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและแก้วิกฤตของประเทศตามแนวคิดที่กล่าวไว้ ตลอดจนยกระดับประเทศให้ก้าวพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง ภายใต้กลยุทธ์ Dual-track Strategy ทั้งการสนับสนุนการพัฒนาประเทศผ่านช่องทางโครงการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสธุรกิจใหม่ๆ แก่ผู้ประกอบการไทย ควบคู่กับการพัฒนา SMEs ให้เป็นผู้ส่งออกอย่างครบวงจร “เราต้องฝันให้ไกลไปกับคนตัวใหญ่
ไม่ละทิ้งที่จะเป็นสะพานให้กับคนตัวเล็ก”
นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำครับ

 

Disclaimer : คอลัมน์นี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความคิดเห็นของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

Related
more icon
  • Green Tourism : The Time to Transform is Now.

    “Work hard, Travel harder.” ในช่วงปลายปีที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน หลายท่านคงเริ่มวางแผนเดินทางท่องเที่ยวเพื่อชาร์จพลังกันแล้ว เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยว เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิ...

    calendar icon14.11.2023
  • เปลี่ยน ปรับ ปรุง ... การ Transform ธุรกิจเพื่อรับมือกับโลกที่ท้าทาย

    ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โลกเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งจากพฤติกรรมผู้บริโภคและพนักงานที่เปลี่ยนไปหลังวิกฤต และยังมีความผันผวนอีกมากรออยู่ในระยะข้างหน้าจากปัญหา Geopolitics ปัญหาเงินเฟ้อ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่แ...

    calendar icon28.08.2023
Most Viewed
more icon
  • ตลาดแอฟริกา : แหล่งลงทุนที่ทำกำไรดีอย่างคาดไม่ถึง

    ท่านผู้อ่านครับ ในปีที่ผ่านมาผมได้เล่าถึงโอกาสการค้าการลงทุนในทวีปแอฟริกาไปแล้วหลายครั้ง ว่าเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพ ทั้งในแง่ทรัพยากรธรรมชาติ ขนาดตลาด สัดส่วนประชากรในวัยแรงงาน การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาวะเศรษฐกิจ และ...

    calendar icon22.01.2019
  • การขายสินค้าออนไลน์ใน CLMV ให้ประสบความสำเร็จ

    ปัจจุบันแม้ตลาดออนไลน์ในประเทศเพื่อนบ้าน อันได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม หรือที่เรียกว่า CLMV จะยังมีขนาดเล็กกว่าไทย ด้วยจำนวนผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มีสัดส่วนเพียง 53% น้อยกว่าไทยที่มีสัดส่วนมากถึง 82% แต...

    calendar icon18.09.2018
  • ส่องโอกาสอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนในตลาดแอฟริกา

    ปัจจุบันนี้คงต้องยอมรับครับว่าทวีปแอฟริกากำลังเนื้อหอม ที่ผมกล่าวเช่นนี้เพราะมีสัญญาณที่สื่อให้เห็นชัดเจนว่าภาครัฐของหลายประเทศกำลังพยายามหาทางนำผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดแอฟริกาเพื่อยึดหัวหาด เห็นได้จากจำนวนสถานทูตตั้งใหม่...

    calendar icon26.03.2019
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview