Hot Issues

โอกาสและความท้าทาย หากสหราชอาณาจักรยุติการใช้มาตรการ AD กับสินค้าไทย

สถานการณ์สำคัญ

สหราชอาณาจักรจะยุติการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping : AD) กับสินค้าไทย 4 รายการ ได้แก่ ข้าวโพดหวานกระป๋อง (ในอัตราร้อยละ 3.1-14.3) เกลียวข้อต่อของท่อเหล็กหล่ออบเหนียว (ร้อยละ 14.9-15.5) ผ้าทอทำด้วยใยแก้ว (ร้อยละ 62.9) และรถลากพาเล็ตด้วยมือ (Hand Pallet Truck) (ร้อยละ 70.8) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เนื่องจากสิ้นสุดช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน (Transition period) ที่สหราชอาณาจักรออกจาก EU อย่างเป็นทางการ ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาไม่มีผู้ประกอบการรายใดในสหราชอาณาจักรยื่นขอใช้มาตรการ AD กับสินค้าทั้ง 4 รายการของไทย

นอกจากนี้ ในวันที่ 1 มกราคม 2564 สหราชอาณาจักรจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าที่เป็นอัตราของตนเอง (UK Global Tariff) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้อัตราเดียวกับ EU มาเกือบ 50 ปี ส่งผลให้สินค้าบางส่วนจากทั้ง 4 รายการที่ได้กล่าวถึงข้างต้น จะได้รับยกเว้นหรือถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราลดลงด้วย (แสดงในตารางที่ 1)

ข้อคิดเห็นจากฝ่ายวิจัยธุรกิจ

ฝ่ายวิจัยธุรกิจประเมินว่าการส่งออกสินค้าทั้ง 4 รายการข้างต้นจะได้ประโยชน์ถึง 2 ต่อ ทั้งจากการที่สหราชอาณาจักรยุติการใช้มาตรการ AD กับสินค้าไทย 4 รายการ และการเปลี่ยนไปใช้ภาษีนำเข้าในอัตรา UK Global Tariff ทั้งนี้ โอกาสของสินค้าแต่ละรายการจะแตกต่างกัน ดังนี้

ข้าวโพดหวานกระป๋อง

คาดว่าภาระภาษีนำเข้าข้าวโพดหวานกระป๋องที่ลดลงร้อยละ 4.2-15.4 จะเป็นประโยชน์ต่อข้าวโพดหวานกระป๋องของไทยค่อนข้างมาก เนื่องจากปัจจุบันสหราชอาณาจักรเป็นตลาดส่งออกข้าวโพดหวานกระป๋องที่สำคัญอันดับ 5 ของไทย (ส่วนแบ่งตลาดส่งออกร้อยละ 5.7 เทียบกับมูลค่าส่งออกข้าวโพดหวานกระป๋องของไทยทั้งหมด) โดยเป็นรองเพียงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ ทั้งยังเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวโพดหวานกระป๋องรายใหญ่อันดับ 2 ในกลุ่ม EU (28) โดยมีส่วนแบ่งมูลค่านำเข้าร้อยละ 18.2 ของมูลค่านำเข้าของ EU ทั้งหมด ใกล้เคียงกับส่วนแบ่งของเยอรมนีซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่สุดในกลุ่ม EU (ร้อยละ 19.7)

ฝ่ายวิจัยธุรกิจประเมินว่าภาระภาษีที่ลดลงดังกล่าวจะเป็นโอกาสต่อข้าวโพดหวานกระป๋องของไทยในการเข้าไปขยายส่วนแบ่งตลาดในสหราชอาณาจักร เนื่องจากปัจจุบันข้าวโพดหวานกระป๋องของไทยมีศักยภาพแข่งขันในตลาดสหราชอาณาจักรในระดับสูงอยู่แล้ว สังเกตได้จากส่วนแบ่งตลาดที่มีมากเป็นอันดับ 4 หรือมีสัดส่วนถึงร้อยละ 12.2 ของมูลค่านำเข้าข้าวโพดหวานกระป๋องของสหราชอาณาจักรทั้งหมด ใกล้เคียงกับส่วนแบ่งตลาดของคู่แข่งอย่างเบลเยียมและฮังการี ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 และ 3 ที่ร้อยละ 13.2 และ 13 ตามลำดับ ทว่ายังตามหลังสเปน ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ร้อยละ 33 ค่อนข้างมาก

ยิ่งกว่านั้น หากสหราชอาณาจักรไม่สามารถเจรจาข้อตกลงทางการค้าร่วมกับ EU ก่อน Transition Period จะสิ้นสุดลง (หรือที่เรียกว่า No Deal Brexit) สินค้าข้าวโพดหวานกระป๋องจากสเปน เบลเยียม และฮังการี จะถูกสหราชอาณาจักรเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา UK Global Tariff จากก่อนหน้านี้ที่สินค้าจากทั้งสามประเทศได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้ามาโดยตลอด ส่งผลให้สินค้าจากทั้งสามประเทศจะไม่ได้เปรียบสินค้าไทยในแง่ของภาษีนำเข้าอีกต่อไป (เดิมสินค้าจากทั้งสามประเทศมีแต้มต่อภาษีนำเข้าดีกว่าสินค้าของไทยอยู่ร้อยละ 4.2-15.4) อย่างไรก็ตาม หากสหราชอาณาจักรสามารถเจรจาข้อตกลงทางการค้าร่วมกับ EU ได้ สินค้าข้าวโพดหวานกระป๋องของทั้งสามประเทศก็จะยังรักษาแต้มต่อทางภาษีจากการได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าไว้ได้

รถลากพาเล็ตด้วยมือ

คาดว่าภาระภาษีนำเข้ารถลากพาเล็ตด้วยมือที่ลดลงร้อยละ 70.8 จะทำให้รถลากพาเล็ตด้วยมือของไทยมีโอกาสส่งออกและเข้าไปขยายตลาดในสหราชอาณาจักรได้เพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกสำคัญของไทยสำหรับสินค้าดังกล่าว ด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 6.3 ของมูลค่าส่งออกรถลากพาเล็ตด้วยมือทั้งหมดของไทย โดยเป็นรองเพียงญี่ปุ่นที่มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 43.2 และสหรัฐฯ ร้อยละ 19.8

เกลียวข้อต่อของท่อเหล็กหล่ออบเหนียว

ผ้าทอทำด้วยใยแก้ว

คาดว่าภาระภาษีนำเข้าเกลียวข้อต่อของท่อเหล็กหล่ออบเหนียวที่ลดลงร้อยละ 18.6-19.2 และผ้าทอทำด้วยใยแก้วที่ลดลงร้อยละ 63.9 จะทำให้สินค้าทั้ง 2 รายการของไทยมีโอกาสที่จะส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น (จากความสามารถในการแข่งขันด้านราคาที่มากขึ้น) แต่อาจไม่ส่งผลต่อการส่งออกรวมของสินค้าดังกล่าวมากนัก เนื่องจากสหราชอาณาจักรไม่ได้เป็นตลาดส่งออกหลักของไทยสำหรับสินค้าทั้ง 2 รายการ อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรถือเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าเหล่านี้ เนื่องจากปัจจุบันสหราชอาณาจักรเป็นประเทศผู้นำเข้าเกลียวข้อต่อของท่อเหล็กหล่ออบเหนียวรายใหญ่อันดับ 4 ใน EU (สัดส่วนร้อยละ 8.1 ของมูลค่านำเข้าเกลียวข้อต่อของท่อเหล็กหล่ออบเหนียวของ EU ทั้งหมด) และเป็นประเทศผู้นำเข้าผ้าทอทำด้วยใยแก้วรายใหญ่อันดับ 5 ใน EU (สัดส่วนร้อยละ 5.8 ของมูลค่านำเข้าผ้าทอทำด้วยใยแก้วของ EU ทั้งหมด)

แม้เบื้องต้นสินค้าข้าวโพดหวานกระป๋องจะเป็นสินค้าเพียงรายการเดียวที่ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากกรณีที่สหราชอาณาจักรจะยุติการใช้มาตรการ AD ต่อสินค้าไทย (รวมถึงการใช้ภาษีนำเข้าที่เป็นอัตราใหม่) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวสินค้าในทุกรายการที่เหลือ ทั้งเกลียวข้อต่อของท่อเหล็กหล่ออบเหนียว ผ้าทอทำด้วยใยแก้ว รวมถึงรถลากพาเล็ตด้วยมือ มีโอกาสจะได้ประโยชน์ เนื่องจากจะแข่งขันกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ ในตลาดสหราชอาณาจักรได้มากขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเหล่านี้จึงไม่ควรมองข้ามการส่งออกไปยังตลาดสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดดังกล่าวมีท่าทีเปิดรับและเปิดเสรีให้แก่สินค้าจากประเทศนอกกลุ่ม EU มากขึ้น หลังจากที่ออกจาก EU อย่างเป็นทางการ

Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายและการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด

เอกสาร
ที่เกี่ยวข้อง
Related
more icon
Most Viewed
more icon
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview